ในยุคนี้ผู้คนใฝ่ฝันอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะได้ทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ไปพร้อม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ทุกความฝันนั้นย่อมมีความเสี่ยงตามมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนจะต้องแบกรับไว้ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจ หากต้องการสร้างร้านอาหารให้เติบโตอย่างมั่นคง จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน แล้วควรเริ่มต้นอย่างไรดี? มาดูแนวทางและคำแนะนำสำหรับมือใหม่กัน
1. วางคอนเซปต์ร้าน และเมนูที่ชัดเจน
ก่อนจะเปิดร้าน เราควรกำหนดว่า "เราจะขายอะไร?" และ “ขายใคร” เลือกสไตล์ร้านอาหารที่สอดคล้องกับความถนัดและความชอบ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารไทย ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านคาเฟ่สไตล์มินิมอล หรือร้านอาหารเอาใจสายสุขภาพ เมื่อแนวทางของร้านชัดเจน จะทำให้การพัฒนาเมนูและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงรู้จักกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอาหารรสชาติ และวัตถุดิบอย่างไร ซึ่งจะทำให้เราสร้างฐานลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้น
2. สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนจากคู่แข่ง
การแข่งขันร้านอาหารในยุคนี้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะร้านคาเฟ่ การมีจุดขายที่แตกต่างเป็นสิ่งจำเป็น ต้องมีเอกลักษณ์จุดเด่นที่หาไม่ได้จากที่อื่น เช่น คาเฟ่ของเราอาจมีสูตรลับโฮมเมดที่ไม่เหมือนใคร มีเมนูพิเศษที่หาไม่ได้จากร้านอื่น หรือการตกแต่งสไตล์ร้านก็สำคัญ ลูกค้าสมัยนี้ไม่ได้ซื้อเพียงแค่อาหาร แต่ซื้อ “ประสบการณ์” และ "ความรู้สึก" ที่ได้สัมผัสภายในร้านด้วย ถ้าร้านเรามีบรรยากาศน่าชวนสายคอนเทนต์มาถ่ายรูป หรือพาครอบครัวมาพักผ่อนได้ ก็จะเสริมประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เพิ่มจุดเด่นให้อาหารและขนมด้วยการเลือกวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ อาจเลือกใช้ของที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดมาประยุกต์ให้เข้ากับเมนูของร้าน หรือถ้าอยากเพิ่มมิติความหอมอร่อยให้กับอาหารและขนมแนะนำให้เลือกใช้มาร์การีน บลูแบนด์ นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าทานให้กับเมนูของเราได้แล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนให้กับร้านด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ใช้แทนเนยสดได้ 100% สามารถเก็บไว้ได้นาน คุมคุณภาพขนมและอาหารได้อย่างสม่ำเสมอ หรือเลือกใช้บลูแบนด์ ครีมทำอาหารอเนกประสงค์ ใช้ได้เหมือนครีมนม ไม่แตกตัวเมื่อเจอความร้อน เข้ากันได้กับทั้งเมนูคาวหวานและเครื่องดื่ม
3. หาพาร์ทเนอร์และซัปพลายเออร์คู่ใจ
จะทำร้านอาหารเราคงไม่สามารถผลิตวัตถุดิบทุกอย่างขึ้นมาเองได้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักเลือกซัปพลายเออร์ดี ๆ ส่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ, ติดต่อได้ง่าย, ราคาสมเหตุสมผล, จัดส่งได้รวดเร็ว ซึ่งจะเข้ามาเสริมร้านอาหารของเราให้ดำเนินธุรกิจไปได้ยาว ๆ แบบไม่มีสะดุด และเราควรมีแผนสำรองหากซัปพลายเออร์หลักของเราไม่สามารถส่งวัตถุดิบให้เราได้
4. ทำเลดี ทีมงานมืออาชีพ
สำหรับการทำร้านอาหาร การเลือกทำเลก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงง่าย ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัด มีที่จอดรถเพียงพอ การเดินทางสะดวก นอกจากทำเลร้านแล้ว ทีมงานก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน พนักงานไม่ใช่เพียงผู้ให้บริการ แต่เป็นตัวแทนของแบรนด์ที่ส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ ต่อให้อาหารรสชาติดี แต่พฤติกรรมพนักงานแสดงออกไม่ดีต่อลูกค้า จะทำให้ลูกค้าไม่อยากกลับมาใช้บริการอีก การเทรนทีมงานให้มีทักษะการบริการที่ดี และสื่อสารด้วยทัศนคติเชิงบวก จะช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและสร้างโอกาสในการกลับมาใช้บริการซ้ำ
สรุปสำหรับเจ้าของมือใหม่
การทำร้านอาหารหรือธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากวางแผนทั้งรอบด้านอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากเลือกสไตล์ร้านและเมนูให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มีจุดเด่นที่แตกต่าง เพื่อให้ร้านน่าจดจำ ติดต่อพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือ เลือกทำเลที่ตั้งของร้านที่เหมาะสม และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงวัตถุดิบคุณภาพอย่าง “มาร์การีนและครีมอเนกประสงค์ บลูแบนด์” ที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพ ในด้านการลดต้นทุน อีกทั้งยังทำให้อาหารอร่อยมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณพร้อมลุยสมรภูมิธุรกิจร้านอาหารได้อย่างมีสไตล์