• Skip to main content
  • Skip to footer
Previous slide Next slide Carousel slide Pause slide movement Resume slide movement
use left or right arrow keys to navigate the tab,
Page First page Last page More pages Next page Previous page
Press Enter or Space to expand or collapse and use down arrow to navigate to the tab content
close menu open menu
Click to read more about this recipe
Includes
Your webbrowser is outdated and no longer supported by Microsoft Windows. Please update to a newer browser by downloading one of these free alternatives.
  • ลงทะเบียน
  • แหล่งจำหน่าย
  • EN
  • จุดมุ่งหมาย
  • ผลิตภัณฑ์ของเรา
  • สูตรอาหาร
  • บทความ
  • ลงทะเบียน
  • แหล่งจำหน่าย
  • EN
Article, เลี่ยงสภาวะ “ขายดีแต่กำไรไม่เหลือ”

เลี่ยงสภาวะ “ขายดีแต่กำไรไม่เหลือ”

Back to overview

เลี่ยงสภาวะ “ขายดีแต่กำไรไม่เหลือ”

 

แม้จะมีลูกค้าแน่นทุกวัน ยอดขายทะลุเป้า แต่ทำไมร้านอาหารบางร้าน กลับไม่เหลือกำไรในบัญชีเลย?

หลายร้านมีเมนูเด็ด มีลูกค้าประจำ มีออร์เดอร์เข้าแทบไม่ขาด แต่เมื่อจบเดือนกลับพบว่า เงินไม่เหลือพอจ่ายซัพพลายเออร์ ไม่มีทุนหมุนซื้อของล็อตใหม่ หรือแย่กว่านั้นคือต้องควักเงินส่วนตัวมาอุ้มร้าน โดยสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากโชคร้าย แต่เกิดจากการ มองข้าม “ต้นทุนแฝง” และการวางระบบหลังร้าน ที่แข็งแรงพอจะพยุงยอดขายให้กลายเป็นกำไรจริง

วันนี้จึงอยากชวนเจ้าของร้านไม่ว่าจะเปิดมานานหรือเพิ่งเริ่มต้น มาทบทวน 5 กฎเหล็กที่ร้านอาหารมืออาชีพไม่เคยมองข้าม กฎง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณ “รักษาเม็ดเงิน” ได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ “สร้างรายได้” และค่อยๆ ปรับร้านให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว  

 

1. คำนวณต้นทุนอาหารให้แม่น ไม่คิดแบบ “กลมๆ”

หลายร้านคำนวณต้นทุนแค่หยาบๆ คิดเฉพาะเนื้อสัตว์ ผัก ข้าว แต่ต้นทุนที่แท้จริง ต้องรวมสิ่งเหล่านี้ด้วย

  • วัตถุดิบรอง เช่น เครื่องปรุง, น้ำมัน, เกลือ, ซอส ฯลฯ ที่แม้จะเหยาะหรือใส่ในเมนูละนิดละหน่อย ทำให้ลืมคิดต้นทุนที่ใช้ซื้อไป
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าแรงงาน
  • ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ เช่น เตา, เครื่องตี, ตู้เย็น, ตู้แช่, ตู้โชว์สินค้า ฯลฯ

ต้นทุนเหล่านี้ถ้าคุณคิดไม่ครบ จะทำให้ “ตั้งราคาขายต่ำเกินจริง” และพอราคาวัตถุดิบขึ้น ก็จะเสียกำไรทันที

เคล็ดลับ ร้านอาหารส่วนใหญ่ควรควบคุมต้นทุนวัตถุดิบอาหาร (Food Cost) ให้อยู่ระหว่าง 28–32% ของราคาขายต่อจาน หากเกินกว่านี้ควรปรับสูตร เปลี่ยนวัตถุดิบหรือคิดใหม่ทั้งเมนู

วิธีลด Food Cost อย่างมืออาชีพ

  • ปรับสูตรโดยไม่ลดคุณภาพ เช่น ใช้สัดส่วนเนื้อกับผักให้สมดุลขึ้น
  • เปลี่ยนวัตถุดิบให้คุ้มค่า เช่น ใช้ มาร์การีน บลูแบนด์ แทนเนยสดเพื่อลดต้นทุนแต่ยังคงความหอมมัน ใช้ครีมอเนกประสงค์ บลูแบนด์ ที่ตีขึ้นฟูได้ปริมาณมากกว่าเดิม 2.5 เท่า เป็นต้น
  • ปรับไซซ์จาน / ราคา ให้สอดคล้องกับต้นทุนจริง

 

2. ลดขั้นตอนการทำงาน เพื่อลดต้นทุนแรงงาน

เวลาคือเงินในธุรกิจร้านอาหาร การเตรียมวัตถุดิบเยอะ ใช้แรงงานมาก เตรียมของนานเกินไป เท่ากับต้นทุนแฝงที่กินกำไรทุกวัน ลองเลือกใช้วัตถุดิบที่ ใช้งานได้หลากหลายและรวดเร็ว เช่น ใช้ครีมอเนกประสงค์ บลูแบนด์ ที่ตีครีมขึ้นฟูได้เร็ว ทำให้ซอสหรือซุปข้นไวกว่าเดิม และสามารถเตรียมวัตถุดิบล่วงหน้า (Pre-cooked) ได้ด้วย เพราะเมื่อนำซอสมาอุ่นซ้ำก็ยังคงสภาพเดิม ไม่แตกตัวหรือแยกชั้น ยิ่งวัตถุดิบช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ทีมก็ใช้เวลาน้อยลง รับออเดอร์ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพนักงาน

3. ใช้วัตถุดิบตัวเดียวให้ทำได้หลากหลายเมนู

เพราะวัตถุดิบที่ใช้ได้แค่เมนูเดียวทำให้ต้องสต็อกของหลายรายการ เสี่ยงหมดอายุเร็วและทำให้เงินจมกับของที่ใช้ไม่หมด มาร์การีน บลูแบนด์สามารถใช้ผัดทำอาหารคาวก็ได้ หรือจะนำมาใช้ทำขนมก็หอมและให้เนื้อเนียนนุ่ม, ใช้ครีมอเนกประสงค์ บลูแบนด์ สามารถนำมาใช้ตีเป็นวิปครีม ทำครีมสำหรับตกแต่งหน้าเค้ก ทำซอส ซุป และยังใช้ชงกับเครื่องดื่มได้อีกด้วย

เคล็ดลับ ใช้วัตถุดิบอเนกประสงค์ ช่วยให้ลดความซับซ้อน ร้านสามารถคุมคุณภาพได้ง่ายและของไม่เหลือค้างสต็อก

 

4. ขายดีแล้ว ต้องเพิ่มกำไรต่อหัว (Average Check)

หลายร้านมุ่งแต่หาลูกค้าเพิ่ม แต่ลืมว่าลูกค้าเก่าที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือโอกาสทำกำไรที่ใกล้มือที่สุด โดยการเพิ่มยอดขายเฉลี่ยต่อลูกค้า (Average Check) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ยอดขายเพิ่ม โดยไม่ต้องหาวิธีเพิ่มจำนวนลูกค้า

เคล็ดลับ

  • นำเสนอชุดโปรโมชัน เซตอาหารและเครื่องดื่มที่ดูคุ้มค่า เช่น เซตอาหารคาว + เครื่องดื่ม + ของหวาน
  • ฝึกทีมให้เชียร์ขาย (Upsell) เมนูที่มีกำไรสูงหรือสั่งเพิ่ม เช่น รับเมนูแนะนำของร้านเราเพิ่มไหมคะ?
  • ทำของหวานง่ายๆ ที่ต้นทุนต่ำ แต่ขายได้ราคา เช่น ขนมที่ใช้ครีมวิปง่ายๆ เสิร์ฟพร้อมผลไม้ มาวางขายในเมนูให้ดูน่าสนใจ

 

5. ติดตามตัวเลขให้สม่ำเสมอ อย่าบริหารด้วย “ความรู้สึก”

หลายร้านขายดีแต่ขาดทุน เพราะใช้ความรู้สึกตัดสิน เช่น “วันนี้คนเยอะน่าจะได้กำไรเยอะ” แต่จริงๆ แล้ว ตัวเลขบางอย่างอาจกำลังส่งสัญญาณอันตรายอยู่ เช่น

  • Food Cost % คือ สัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบเทียบกับราคาขาย เช่น ขายข้าวจานละ 100 บาท ใช้วัตถุดิบไป 30 บาท Food Cost จึงเท่ากับ 30%
  • Labor Cost % คือ ต้นทุนแรงงานเทียบกับยอดขาย เช่น จ้างพนักงานเดือนละ 60,000 บาท ขายได้ 200,000 บาท Labor Cost จึงเท่ากับ 30%
  • ยอดขายเฉลี่ยต่อโต๊ะ (Average Check) คือ ยอดขายเฉลี่ยที่ลูกค้า 1 โต๊ะใช้จ่าย
  • จำนวนรอบโต๊ะต่อวัน (Table Turnover) คือโต๊ะตัวหนึ่งสามารถใช้รับลูกค้าได้กี่รอบต่อวัน ยิ่งหมุนโต๊ะได้ไว ยิ่งเพิ่มยอดขายต่อวันได้มาก

ธุรกิจร้านอาหารที่มั่นคง ไม่ได้วัดกันที่แค่มีคนต่อคิว แต่ต้องวัดกันที่ มีกำไรเหลือในบัญชี และสามารถขยายต่อได้ในระยะยาว การเลือกวัตถุดิบที่ คุณภาพดี ใช้งานง่าย และยืดหยุ่น อย่างมาร์การีน ครีมอเนกประสงค์ จะช่วยให้ร้านของคุณลดต้นทุนแฝง ลดของเสีย ลดแรงงาน และสร้างเมนูได้หลากหลายตอบโจทย์ทั้งลูกค้า และเจ้าของร้านในครัวเดียวกัน

ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่

  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 064-105-9189, 082-092-8362, 083-812-6924 และ 083-920-2516
  • เพิ่มเพื่อนใน Line ได้ที่ https://lin.ee/Tx0HyvX (@florathailand)
  • เว็บไซต์: https://www.floraprofessional.com/th-th

ผลิตภัณฑ์

  • บลูแบนด์ โปรเฟสชั่นนอล มาร์การีน สูตรเพิ่มกลิ่นเนยสด 1กก
  • บลูแบนด์ โปรเฟสชั่นนอล มาร์การีน 2 กก
  • บลูแบนด์ โปรเฟสชั่นนอล ครีมทำอาหารอเนกประสงค์ 1 ลิตร
  • ฟลอร่า โพรเฟสชั่นนอล แพลนท์ เบส ออลเพอโพส ครีม 1 ลิตร

สูตรอาหาร

  • สูตรอาหารทั้งหมด

ประกาศ และนโยบาย

  • Flora Food Group
  • ติดต่อ
  • ประกาศเกี่ยวกับการใช้และจัดการคุกกี้
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อกำหนด และเงื่อนไข
2025 – Flora Food Group |สงวนลิขสิทธิ์